วันนี้ผมจะมาพูดถึงประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบแบคแพคกับเพื่อ2คนที่ประเทศญี่ปุ่นครับ
ตอนแรกก็กลัวอยู่เหมือนกันครับ ว่าไปแล้วจะรอดรึเปล่า
เพราะได้ข่าวว่าที่ประเทศญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่จะไม่ใช่ภาษาอังกฤษเพราะว่าชาวญี่ปุ่นเป็นชาตินิยมมากจะใช่แต่ภาษาของตัวเอง
แต่ด้วยความที่อยากลองไปดูซักครั้งว่าจะเป็นยังไง
อีกทั้งยังต้องการไปหาเพื่อนที่ได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่นด้วย
ในทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยจะได้เที่ยวสถานที่สำคัญมากครับเพราะด้วยความที่พวกเรา2คนต้องการจะเดินทางแบบแบคแพคจึงไม่ค่อยรู้เรื่องอีกทั้งยังเสียเวลากับการถามทาง
แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับถึงแม้ว่าคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ตามแต่พวกเค้าก็ช่วยบอกทางพวกเราอย่างเต็มที่ด้วยการใช่ภาษามือในการสื่อสาร
อุปสรรคอีกอย่างนึงที่มส่วนสำคัญอย่างมากคือภาษาเพราะในเมนูอาหารจะเป็นญี่ปุ่นทั้งหมดทำให้
พวกเราต้องเดาครับว่าคืออะไร คือมั่วนั้นเอง 555
การไปญี่ปุ่นครั้งนี้เรียกได้ว่าได้ลองชิมทุกอย่างที่เป็นของญี่ปุ่นหมดแล้วครับ
ต้องบอกเลยว่าแต่ละอย่างนั้นอร่อยมาก กลับมาน้ำหนักขึ้นไปหลายโลเลย555
ไฮท์ไลท์ของงานต้องเรียกได้ว่าเป็นเมนูสุดพิเศษเลยครับ
นั้นก็คือการได้ทานเนื้อม้า!!!
การเดินทางก็สำคัญครับในการเดินทางมีเรื่องเยอะมากเพราะว่าพวกเราทั้งสองคนหลงทางบ่อยมากไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเพราะในแผนที่
งง มาก นั่งรถไปลงผิดเมืองก็ไปมาแล้วครับ
แต่ในการเดินทางครั้งนี้ก็ทำให้พวกเราได้เจอคนดีๆครับ
พวกเราเจอคนฮ่องกงที่เกิดในแคนาดา
ตอนแรกพวกเราก็นึกว่าเป็นคนญี่ปุ่นเพราะหน้าตาไปทางเอเชียมาก
แต่เค้าก็ช่วยเหลือคุยกับเราและพาเราไปส่งที่สถานีรถไฟครับ
จุดประสงค์อีกอย่างนึงคือการมาหาเพื่อนที่ญี่ปุ่นครับ
เพื่อนคนนี่เรียนเก่งมากสอบทุนที่ถื่อว่ายากมากกว่าจะได้
แม้ว่าจะเจอเพื่อนแล้วแต่ก็ยังไม่วายนะครับ
พวกเราก็ตกรถไฟอีกตามเคย มาไม่ทันครับ
จึงต้องนั่งรอรถไฟรอบต่อไปต้องบอกเลยว่าหนาวมาก
ประสบการณ์ที่สำคัญอีกอย่างนึงที่ประทับใจก็คือการได้เข้าไปแจมคลาสเรียนของเพื่อนในมหาวิทยาลัยครับต้องบอกเลยว่ายากมาๆ
ผมถึงขนาดง่วงจนหลับไปเลย 555
ปั่นจักรยานรอบเมือง ตอนเย็นๆครับ มีความสุขมากๆ
การมาทริปนี้ก็ได้ไปสถานที่เที่ยวบ้างครับแต่ก็ไม่มากเท่าที่ควรเพราะเสียเวลาไปเยอะกับการหาทางไป
ก็อยากให้เพื่อนๆถ้ามีโอกาสลองดูซักครั้งนะครับ
การเดินทางนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดขอแค่มีเพื่อนร่วมทางที่ดีมันก็จะกลายเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษได้....
No comments:
Post a Comment